คู่มือการท่องเที่ยวสถานที่ต้องเยี่ยมชมในจังหวัดควิเบก

อัปเดตเมื่อวันที่ Apr 30, 2024 | วีซ่าแคนาดาออนไลน์

ควิเบกเป็นจังหวัดขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยพื้นที่ประมาณหนึ่งในหกของแคนาดา ภูมิประเทศที่หลากหลายมีตั้งแต่ทุนดราอาร์กติกที่อยู่ห่างไกลไปจนถึงมหานครโบราณ ภูมิภาคนี้มีอาณาเขตติดต่อกับรัฐเวอร์มอนต์และนิวยอร์กของอเมริกาทางตอนใต้ ทางใต้มีเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลอยู่ทางทิศเหนือ อ่าวฮัดสันทางทิศตะวันตก และอ่าวฮัดสันทางใต้

แม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ซึ่งมีความยาวประมาณ 1,200 กิโลเมตร ไหลผ่านพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นของจังหวัด

ในขณะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางไปยังสองเมืองใหญ่ของจังหวัด ได้แก่ มอนทรีออลและเมืองควิเบก แต่ก็มีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำตลอดทั้งปี สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งรวมถึงอาคารประวัติศาสตร์ สถาบันวัฒนธรรม เทศกาล หมู่บ้านเล็กๆ สวนสาธารณะที่สวยงามและภูมิภาคทางธรรมชาติ รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำในควิเบกของเราจะช่วยคุณค้นหาสถานที่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้

การเยี่ยมชมแคนาดานั้นง่ายกว่าที่เคย เนื่องจาก Immigration, Refugees and Citizenship Canada (IRCC) ได้แนะนำกระบวนการที่ง่ายและคล่องตัวในการขออนุมัติการเดินทางทางอิเล็กทรอนิกส์หรือ วีซ่าแคนาดาออนไลน์. วีซ่าแคนาดาออนไลน์ เป็นใบอนุญาตการเดินทางหรือการอนุญาตการเดินทางแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเข้าและเยี่ยมชมแคนาดาเป็นระยะเวลาน้อยกว่า 6 เดือนสำหรับการท่องเที่ยวหรือธุรกิจ นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องมี eTA ของแคนาดาจึงจะสามารถเข้าประเทศแคนาดาและสำรวจประเทศที่สวยงามแห่งนี้ได้ ชาวต่างชาติสามารถสมัคร an . ได้ การยื่นคำร้องขอวีซ่าแคนาดาออนไลน์ ในไม่กี่นาที ขั้นตอนการสมัครวีซ่าแคนาดาออนไลน์ เป็นไปโดยอัตโนมัติ เรียบง่าย และออนไลน์โดยสมบูรณ์

โรงแรมเดอ Glace

Hôtel de Glace เป็นความพยายามอันยิ่งใหญ่ที่สร้างด้วยหิมะ 15,000 ตันและน้ำแข็ง 500,000 ตัน แต่ทุกๆ ฤดูใบไม้ผลิมันจะหายไปอย่างสิ้นเชิง ห้องพักของ Ice Hotel ใช้เวลาหนึ่งเดือนครึ่งจึงจะแล้วเสร็จและต้องใช้พนักงานเต็มเวลา 60 คน แต่ผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือการผสมผสานที่น่าทึ่งของสถาปัตยกรรมที่เยือกเย็น ธรรมชาติ และแสงสีพาสเทลโดยรอบ โรงแรมมีห้องพักทั้งหมด 85 ห้อง คลับ หอศิลป์ และแม้แต่โบสถ์ที่มีงานแต่งงานไม่กี่งาน

เก้าอี้และพื้นผิวอื่นๆ ทั้งหมดของโรงแรมทำมาจากน้ำแข็ง ใช้เตียงที่ปูด้วยขนสัตว์ ผ้าห่มที่ผ่านการทดสอบจากขั้วโลกเหนือ และถุงนอนเพื่อทำให้พื้นที่น่าอยู่มากขึ้น ส่วนที่อุ่นเพียงส่วนเดียวของโรงแรมคือห้องสุขาด้านนอกสองสามห้องและอ่างน้ำร้อนกลางแจ้งสองสามอ่างเพื่อเพิ่มประสบการณ์

โรงแรมซึ่งเป็นภาพประกอบของโครงสร้างน้ำแข็งบริสุทธิ์ ได้รับการสนับสนุนโดยผนังที่เย็นเยือกเท่านั้น ซึ่งอาจหนาถึงสี่ฟุตเพื่อเป็นฉนวนป้องกันตัวอาคาร Hôtel de Glace เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงความสลับซับซ้อนและการจัดวางทุกปี แม้ว่าคุณจะไม่ได้รับการรักษาระดับสี่ดาวก็ตาม

มหาวิหารแซงต์-แอนน์-เดอ-โบปรี

มหาวิหาร Sainte-Anne-de-Beaupré ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ริมแม่น้ำที่เงียบสงบของ Ste-Anne de Beaupré ต้อนรับผู้แสวงบุญ 500,000 คนต่อปี นักบุญแอนน์เป็นนักบุญอุปถัมภ์ของควิเบก และมีเหตุอัศจรรย์หลายอย่างเกิดขึ้นกับเธอ ไม้ค้ำยันทิ้งเรียงรายอยู่ตรงทางเข้าเพื่อเป็นที่ระลึกถึงผู้ป่วย พิการ และผู้ทุพพลภาพ ซึ่งอ้างว่าได้รับการฟื้นฟูอย่างปาฏิหาริย์ แม้ว่าสถานที่ดังกล่าวจะเป็นที่ตั้งของศาสนสถานในธีมเซนต์แอนน์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 แต่อาคารปัจจุบันมีอายุตั้งแต่ปี 1926

Chutes Ste-Anne และ Sept-Chutes ซึ่งเป็นโตรกธารแม่น้ำสองแห่งและน้ำตกในภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองควิเบกก็อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเช่นกัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นตามเส้นทางธรรมชาติและยืนบนสะพานแขวนเพื่อชมช่องเขาในบริเวณนี้

อ่านเพิ่มเติม:
ออนแทรีโอเป็นที่ตั้งของโตรอนโต ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เช่นเดียวกับออตตาวาซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ แต่สิ่งที่ทำให้ออนแทรีโอโดดเด่นก็คือพื้นที่รกร้างกว้างใหญ่ ทะเลสาบที่เก่าแก่ และน้ำตกไนแองการ่า ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของแคนาดา เรียนรู้เพิ่มเติมที่ คู่มือการท่องเที่ยวต้องไปสถานที่ต่างๆในออนแทรีโอ.

วาง Royale

ซามูเอล เดอ ชองปง เดิมตั้งรกรากอยู่ที่ปลาซรอแยลในปี ค.ศ. 1608 และปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโครงสร้างอันน่าทึ่งของศตวรรษที่ 17 และ 18 ซึ่งใช้เป็นภาพรวมของควิเบกเก่า Place Royale เป็นที่ที่เมืองควิเบกถือกำเนิดขึ้น สาขาหนึ่งของอารยธรรม Musée de la Civilization เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวร่วมสมัยที่ตั้งอยู่ด้านหน้าจัตุรัส พร้อมด้วยโบสถ์หินที่มีเสน่ห์ Notre-Dame des Victoires ซึ่งมีอายุย้อนไปถึงปี 1688

ภายในไม่กี่ช่วงตึก มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในเมืองควิเบกเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Quartier Petit-Champlain ที่มีเสน่ห์ ซึ่งมีอาคารเก่าแก่ตั้งเรียงรายอยู่ตามถนนคนเดินเท่านั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายให้เพลิดเพลินในบริเวณใกล้เคียง เช่น ร้านค้าช่างฝีมือ ร้านอาหารที่ยอดเยี่ยม และจิตรกรรมฝาผนังทรอมเปโลอียล์ในธีมประวัติศาสตร์

ป้อมปราการแห่งควิเบก

Citadel de Québec รูปดาวซึ่งตั้งอยู่บนยอด Cap Diamant และหันหน้าไปทางแม่น้ำ St. Lawrence ได้รับการเตรียมพร้อมที่จะปกป้องเมือง Québec มาตั้งแต่ปี 1832 กำแพงขนาดใหญ่และกำแพงขนาดใหญ่ที่โอบล้อมด้วยคูน้ำลึก เน้นให้เห็นถึงการปรากฏที่น่าเกรงขาม ในนิตยสารแป้งโบราณแห่งศตวรรษที่ 18 ของป้อม ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ทหาร ผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลินกับพิธีเปลี่ยนเวรยามในช่วงเช้าของทุกวันในช่วงฤดูร้อน

ป้อมปราการยังคงเป็นฐานทัพทหารที่ใช้งานได้ซึ่งเป็นที่ตั้งของบุคลากรทุกระดับและทำหน้าที่เป็นผู้ว่าการทั่วไปของบ้านพักฤดูร้อนของแคนาดา นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของกรมทหารแคนาดาที่ 22 ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย

อีเลส เดอ ลา มาดเลน

ชายหาดและเนินทรายของหมู่เกาะ Îles de la Madeleine ในอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์เป็นสถานที่ที่งดงามและคึกคักในฤดูร้อน หกในสิบสองเกาะในหมู่เกาะ Îles de la Madeleine เชื่อมต่อกันด้วยเนินทรายยาวกว่า 90 กิโลเมตรที่มีลักษณะคล้ายเส้นด้าย หมู่เกาะเหล่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำ ดูนก และเดินเล่นบนเนินทราย เดือนที่ดีที่สุดที่จะมาในเดือนสิงหาคม

เกาะที่น่ารักที่สุดแห่งหนึ่งในÎles de la Madeleine คือ Île du Havre aux Maisons ที่มีเนินเขาเตี้ยๆ หน้าผาสีแดง เส้นทางคดเคี้ยว และบ้านเรือนที่กระจัดกระจาย คอนแวนต์อายุกว่าร้อยปี โรงเรียนเก่าแก่ และโบสถ์ Sainte-Madeleine ล้วนแต่แยกจากกันด้วยที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิม Cap Alright ซึ่งอยู่ใน Havre-aux-Maisons ด้วย มีชื่อเสียงในด้านการก่อตัวของหินนอกชายฝั่งที่โดดเด่นและมีประภาคารขนาดเล็ก

บน Île du Cap aux Meules ซึ่งเป็นบ้านของประชากรครึ่งหนึ่งของหมู่เกาะ มีเรือข้ามฟากไปยัง Île d'Entrée เกาะที่มีคนอาศัยอยู่เพียงแห่งเดียวนี้ไม่ได้เชื่อมต่อกับเกาะอื่น Butte du Vent ให้ทัศนียภาพอันน่าทึ่งของหมู่เกาะใกล้เคียง และในวันที่อากาศแจ่มใส คุณสามารถมองเห็นได้ไกลถึงเกาะ Cape Breton ซึ่งอยู่ห่างออกไปเกือบ 100 กิโลเมตร Musée de la Mer ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ของ Île du Havre-Aubert ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ทางใต้สุดของหมู่เกาะ

อ่านเพิ่มเติม:
แวนคูเวอร์เป็นหนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่งบนโลกที่คุณสามารถเล่นสกี เล่นกระดานโต้คลื่น เดินทางย้อนเวลากลับไปกว่า 5,000 ปี ดูฝูงวาฬออร์กาเล่น หรือเดินเล่นในสวนสาธารณะในเมืองที่ดีที่สุดในโลกได้ภายในวันเดียวกัน แวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย เป็นชายฝั่งตะวันตกที่ไม่อาจโต้แย้งได้ โดยตั้งอยู่ระหว่างที่ราบลุ่มกว้าง ป่าดิบชื้นที่เขียวชอุ่ม และทิวเขาที่อุดมสมบูรณ์ เรียนรู้เพิ่มเติมที่ คู่มือการท่องเที่ยวต้องไปสถานที่ต่างๆในแวนคูเวอร์.

Chateau Frontenac

Château Frontenac อันงดงามซึ่งมองเห็นเมืองควิเบกเป็นโครงสร้างที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองหลวงของจังหวัดและมองเห็นได้จากระยะไกล โรงแรมแห่งนี้สร้างโดยรถไฟแคนาเดียนแปซิฟิกในปี พ.ศ. 1894 และยังคงต้อนรับผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลกในสภาพแวดล้อมที่มีเสน่ห์มากที่สุดแห่งหนึ่งที่คุณสามารถจินตนาการได้

ป้อมเซนต์หลุยส์เคยตั้งอยู่ที่จุดชมวิวบนยอดเขาแห่งนี้ แต่ปัจจุบันทางเดินริมทะเลอันกว้างขวางของ Terrasse Dufferin ให้ทัศนียภาพอันงดงามของเลวิสและแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ทางทิศใต้ Promenade des Gouverneurs ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรหลักที่เดินทางลงใต้ไปยังที่ราบอับราฮัมและป้อมปราการ ผ่านใต้ซากปรักหักพังของป้อมปราการ ซึ่งมองเห็นได้ทั้งแขกของโรงแรมและนักท่องเที่ยว

มองต์เทรมแบลนท์

สกีรีสอร์ท Laurentians ของแคนาดาเป็นสถานที่พักผ่อนในฤดูหนาวยอดนิยม และภูเขา Mont Tremblant ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของ Laurentian (ที่ 960 เมตร) ก็เป็นหนึ่งในนั้น อยู่ห่างจากมอนทรีออลไปทางเหนือประมาณ 150 กิโลเมตร ชุมชนรีสอร์ทตั้งอยู่ในหมู่บ้านคนเดินที่มีเสน่ห์ ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารชั้นเยี่ยม สถานบันเทิง และที่พักกว้างขวาง บริเวณนี้ยังเป็นที่นิยมในฤดูใบไม้ร่วงอีกด้วย เมื่อใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีส้ม สีแดง และสีทองอันสดใส

Mont Sainte-Anne ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองควิเบก เป็นสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง รีสอร์ทมีกิจกรรมฤดูร้อนที่หลากหลาย เช่น การตั้งแคมป์ เดินป่า ปั่นจักรยานเสือภูเขา และกอล์ฟ นอกเหนือจากสภาพกีฬาฤดูหนาวที่ยอดเยี่ยม

เกาะโบนาเวนเจอร์ (île Bonaventure)

ในช่วงฤดูร้อน มีนกแกนเน็ทประมาณ 50,000 ตัวรวมตัวกันอยู่บนเกาะนี้นอกคาบสมุทรกาสเปในอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ ทำให้เป็นที่หลบภัยของนกที่มีชื่อเสียง เกาะนี้มีภูมิประเทศที่สวยงามและขรุขระ และมีหน้าผาหินแกรนิตสูงชันของแกสเปซี เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นเส้นทางสำหรับการดูนก ซึ่งผู้เข้าชมสามารถเห็นนกทะเลอื่นๆ เช่น นกพัฟฟินแอตแลนติก นกนางนวล นกเรเซอร์บิล และนกกาน้ำหลายสายพันธุ์

อุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของโขดหินจำนวนมากและหน้าผาอันตระการตาที่ได้รับการแกะสลักจากองค์ประกอบต่างๆ รวมถึง Rocher Percé (Pierced Rock) ที่มีชื่อเสียงซึ่งมีการถ่ายรูปบ่อยครั้ง ในช่วงฤดูร้อน เกาะนี้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับช่างภาพและผู้ที่ชื่นชอบสัตว์ป่า เนื่องจากตั้งอยู่ริมชายฝั่งแปร์เซ

อุทยานแห่งชาติ Forillon

ปลายแหลมของคาบสมุทรแกสเปซึ่งทอดยาวไปถึงอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติที่ห่างไกลผู้คน หน้าผาหินปูนและประภาคาร Cap des Rosiers ที่อยู่ห่างไกลเป็นเพียงสองตัวอย่างของภูมิทัศน์อันน่าทึ่ง ประภาคารที่สูงที่สุดในแคนาดายังเป็นที่ตั้งของศูนย์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ซึ่งเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ในท้องถิ่น

มีการล่องเรือสำราญสำหรับการดูปลาวาฬในภูมิภาคนี้ของ Gaspésie ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักดูนก ทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของหน้าผาตามแนวแหลมจะได้รับรางวัลสำหรับผู้ที่เต็มใจไปตามเส้นทาง Cap Bon-Ami

Musée de la Civilization (พิพิธภัณฑ์อารยธรรม)

พิพิธภัณฑ์อารยธรรม ตั้งอยู่ในย่าน Vieux Port (ท่าเรือเก่า) ของควิเบกซิตี บนฝั่งแม่น้ำ Saint Lawrence เป็นที่เก็บรวบรวมสิ่งประดิษฐ์และนิทรรศการอันน่าทึ่งเกี่ยวกับอารยธรรมมนุษย์จากทั่วทุกมุมโลก

นอกจากนี้ การจัดแสดงเฉพาะภูมิภาคจากคอลเล็กชันถาวรยังรวมถึงหัวข้อต่างๆ เช่น ประวัติปฏิสัมพันธ์ครั้งแรกระหว่างชาวยุโรปและชนพื้นเมือง การขยายตัวของดินแดน และประวัติศาสตร์ของควิเบก ประวัติของธุรกิจ Sugar beet ประวัติของโค้ชม้าลากตลอดจน "ห้องปฏิบัติการดิจิทัล" ที่แขกสามารถค้นคว้าได้เองทั้งหมดจะรวมอยู่ในการจัดแสดงถาวรอื่น ๆ การจัดแสดงชั่วคราวจะสำรวจหัวข้อทางมานุษยวิทยาต่างๆ รวมถึงชุมชนพื้นเมืองและผลกระทบของยุคดิจิทัลสมัยใหม่ที่มีต่ออารยธรรมมนุษย์

สำหรับทั้งผู้ใหญ่และผู้เข้าชมที่อายุน้อยกว่า การจัดแสดงจำนวนมากมีองค์ประกอบแบบอินเทอร์แอกทีฟ และยังมีกิจกรรมสำหรับเด็กที่กำหนดไว้ด้วย นอกจากนี้ยังมีไกด์นำเที่ยว นอกจากนี้ยังมีสาขาของพิพิธภัณฑ์อารยธรรมที่ Place Royale และผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาวฝรั่งเศส - แคนาดาได้ที่Musée de l'Amérique Francophone (พิพิธภัณฑ์แห่งอเมริกาฝรั่งเศส) ซึ่งตั้งอยู่ใน Séminaire de อันเก่าแก่ ควิเบกใน Upper Town ของเมืองและมุ่งเน้นไปที่อดีตและปัจจุบันของผู้อพยพชาวฝรั่งเศสในอเมริกา

อ่านเพิ่มเติม:
บริติชโคลัมเบียเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแคนาดา เนื่องจากมีภูเขา ทะเลสาบ เกาะ และป่าฝน รวมถึงเมืองที่มีทัศนียภาพสวยงาม เมืองที่มีเสน่ห์ และการเล่นสกีระดับโลก เรียนรู้เพิ่มเติมที่ คู่มือการเดินทางฉบับสมบูรณ์สู่บริติชโคลัมเบีย.

สวนพฤกษศาสตร์มอนทรีออล (Jardin Botanique)

ในอุทยานเดียวกันนี้ ยังมีท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่ที่จะพาแขกผู้มาเยือนดื่มด่ำไปกับโลกแห่งดาราศาสตร์ รวมถึงพิพิธภัณฑ์แมลง สถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับเด็กๆ ที่จะเผยให้เห็นแมลงทั้งที่หายากและคุ้นเคย

ชูตส์ มงต์โมเรนซี

น้ำตก Chutes Montmorency อันกว้างใหญ่นี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองควิเบก และมีความลาดชันสูง 84 เมตร น้ำตกนั้นสูงกว่าน้ำตกไนแองการ่า และคุณสามารถเห็นน้ำที่ตกลงมาตรงขอบใต้ฝ่าเท้าของคุณได้ด้วยสะพานแขวนคนเดินแคบที่ทอดข้ามแม่น้ำมงต์มอเรนซีไปยัง île d'Orléans

คาเฟ่และศูนย์การแปลตั้งอยู่ใน Montmorency Manor ซึ่งมีรถเคเบิลที่พาผู้โดยสารขึ้นไปบนน้ำตกและมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของบริเวณโดยรอบ มีทางเดิน บันได จุดชมวิว และสถานที่ปิกนิกมากมายที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวน้ำตกได้ การปีนหน้าผาที่อยู่ใกล้เคียงหรือลองโหนสลิงที่ยาว 300 เมตรข้ามน้ำตกเป็นทางเลือกอื่นสำหรับแขกผู้กล้าหาญ

อ่าวฮัดสัน

ด้วยขนาดรวม 637,000 ตารางกิโลเมตร ทิวทัศน์และเส้นทางน้ำที่กว้างขวางของอ่าวฮัดสันจึงจัดอยู่ในกลุ่มภูมิภาคที่ห่างไกลที่สุดในแคนาดา ภูมิประเทศที่รุนแรงซึ่งขยายไปสู่อาร์กติกเซอร์เคิลเป็นที่อยู่อาศัยของสายพันธุ์ธรรมชาติที่หายาก พบพืชอาร์กติกมากกว่า 800 ชนิดที่นี่ เช่น แซ็กซิฟริจสีม่วง ดอกป๊อปปี้อาร์กติก และอาร์กติกลูปิน บางครั้งมีหมีขั้วโลกปรากฏขึ้นพร้อมกับนกอพยพ แมวน้ำ และสัตว์ทะเลอื่นๆ

ประชากรปลาที่มีสุขภาพดีสามารถพบได้ในอ่าว ในขณะที่การพบเห็นวาฬเบลูก้านั้นเป็นระยะๆ พื้นที่นี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเอสกิโม และชุมชนหน้าด่านเล็กๆ แห่งนี้ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้

อ่านเพิ่มเติม:
หากคุณต้องการเห็นแคนาดาอย่างมหัศจรรย์ ไม่มีเวลาไหนจะดีไปกว่าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ภูมิทัศน์ของแคนาดาจะเต็มไปด้วยสีสันอันสวยงามอันเนื่องมาจากความอุดมสมบูรณ์ของต้นเมเปิล ต้นสน ซีดาร์ และต้นโอ๊ค ทำให้เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันโดดเด่นและน่าหลงใหลของแคนาดา เรียนรู้เพิ่มเติมที่ สถานที่ที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในแคนาดา.

โอลด์ มอนทรีออล (วิเยอ-มอนทรีออล)

Old Montréal ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารสมัยศตวรรษที่ 17, 18 และ 19 รอบท่าเรือเก่าของเมือง เหมาะแก่การสำรวจด้วยการเดินเท้า พื้นที่ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดหลายแห่งในมอนทรีออล เช่น มหาวิหารน็อทร์-ดามสไตล์นีโอกอธิคและจัตุรัส Place Jacques-Cartier ที่เป็นมิตรสำหรับคนเดินเท้า

ศูนย์วิทยาศาสตร์มอนทรีออลและลานสเก็ต Natrel เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับครอบครัวเพียงสองแห่งในภูมิภาค Old Port ครอบครัวและคู่รักจะได้เพลิดเพลินกับ La Grande Roue de Montréal (วงล้อชมวิว) จากกระเช้าลอยฟ้าที่ปกคลุมด้านใน ส่วนที่เพิ่มล่าสุดที่ริมฝั่งแม่น้ำนี้ให้ทัศนียภาพอันตระการตาของเมืองเก่ามอนทรีออล ตัวเมือง และอื่นๆ

ปาร์ค ฌอง เดรโป

งาน World's Fair ปี 1967 จัดขึ้นที่เกาะ Île Sainte-Hélène ที่สร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ Parc Jean Drapeau และสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับครอบครัวมากมาย. การเดินทางไปยังสวนสนุก La Ronde ขนาดใหญ่ ซึ่งมีเครื่องเล่นหลากหลายประเภทที่เหมาะสำหรับครอบครัวและน่าตื่นเต้นสำหรับทุกเพศทุกวัย รวมถึงความบันเทิงและเกม เป็นกิจกรรมที่เด็กๆ ชอบมากที่สุด

Montreal Biodome ซึ่งเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นพื้นที่ชีวภาพที่เน้นเทคโนโลยีสีเขียวและมีการจัดแสดงเกี่ยวกับความท้าทายด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม ผู้เข้าชมที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีสามารถเข้าชมได้ฟรี

ผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ควรไปที่พิพิธภัณฑ์สจ๊วต ซึ่งเก็บสะสมงานศิลปะและสิ่งประดิษฐ์นับพันถาวร รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ อุปกรณ์ทางทหาร และสิ่งตีพิมพ์หายาก พิพิธภัณฑ์ยังจัดนิทรรศการและโอกาสพิเศษตลอดทั้งปี

สวนสัตว์ Granby

Zoo de Granby มีบ้านที่อบอุ่นสำหรับสัตว์ต่างๆ จากระบบนิเวศและอุณหภูมิที่หลากหลาย แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมทางตอนเหนือก็ตาม มากกว่า 225 สายพันธุ์ที่แตกต่างกันหรือมากกว่า 1,500 สิ่งมีชีวิต เรียกว่าบ้าน ซึ่งเป็นตัวแทนของพืชในอเมริกาใต้ เอเชีย แอฟริกา และโอเชียเนีย

เสือดาวหิมะ แมวตัวใหญ่ที่ใกล้สูญพันธุ์ซึ่งถูกขนานนามว่า "ผีแห่งขุนเขา" เนื่องจากความสามารถในการรวมตัวเข้ากับภูมิประเทศที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เป็นหนึ่งในสัตว์ไม่กี่ตัวที่สวนสัตว์แห่งนี้อาศัยอยู่ แมวขนาดใหญ่อื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์ ได้แก่ สิงโตแอฟริกา เสืออามูร์ เสือจากัวร์ และเสือดาวอามูร์

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ สำหรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ จิงโจ้สีเทาตะวันออก วอลลาบี และนกอีมูของโอเชียเนียและช้าง แรดขาว ฮิปโปโปเตมัส และยีราฟของแอฟริกา อัลปากา ลามะ และฟลามิงโกแคริบเบียนเป็นชาวพื้นเมืองในอเมริกาใต้ แพนด้าแดง จามรี และอูฐ Bactrian อัจฉริยะเป็นชาวเอเชีย

กอริลลาที่ราบลุ่มตะวันตก Guereza จากแอฟริกา ลิงแสมญี่ปุ่นจากเอเชีย และบิชอพอื่น ๆ ถูกเก็บไว้ในสวนสัตว์ นอกจากนี้ยังมีสัตว์น้ำหลากหลายชนิด เช่น แมงกะพรุนพระจันทร์ ปลากระเบนจมูกวัว เต่าทะเลสีเขียว และฉลามครีบดำ

โปรแกรมต่างๆ ที่สวนสัตว์เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ รวมถึงการบรรยายพิเศษโดยนักธรรมชาติวิทยา สวนสัตว์แห่งนี้เป็นการเดินทางท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากมอนทรีออลเนื่องจากเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปีและตั้งอยู่ในเขตเมืองทางตะวันออก ผู้เข้าชมยังสามารถสัมผัสสวนสนุกในสถานที่ฟรีในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่น รถบั๊มพ์ ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน และรถไฟเหาะเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับครอบครัว

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แคนาดา

โครงสร้างร่วมสมัยใน Gatineau มองเห็นอาคารรัฐสภาในออตตาวาอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ พิพิธภัณฑ์ชั้นนำของประเทศนี้เน้นประวัติศาสตร์ของแคนาดา ตั้งแต่นักเดินเรือชาวนอร์สไปจนถึงวัฒนธรรมของชนชาติแรกในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ พิพิธภัณฑ์สนับสนุนการเยี่ยมชมนิทรรศการจากพิพิธภัณฑ์ในเครือนอกเหนือจากของสะสมถาวร

พิพิธภัณฑ์เด็กแห่งแคนาดา ซึ่งเป็นพื้นที่เล่นแบบอินเทอร์แอคทีฟที่เด็กๆ จะได้สัมผัสและสัมผัสกับวัฒนธรรมและธีมทางประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย รวมอยู่ในค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ด้วย ดังนั้นครอบครัวจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเด็กเล็ก เบื่อ. พิพิธภัณฑ์ยังมีโรงละคร IMAX เจ็ดชั้นซึ่งมีการฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชีวิตชาวแคนาดาในภาคเหนือ

สวน Gatineau

สวนสาธารณะ Gatineau ตั้งอยู่ใกล้เมืองและแม่น้ำที่มีชื่อเดียวกัน ประกอบด้วยป่าที่สูงชันซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีใครแตะต้องและทะเลสาบอันเงียบสงบ William Lyon Mackenzie King นายกรัฐมนตรีผู้แปลกประหลาดของแคนาดาเคยอาศัยอยู่ที่ Mackenzie King Estate ซึ่งปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะ ซึ่งแขกสามารถเพลิดเพลินกับการเที่ยวชมถ้ำหินอ่อนแห่งนี้ที่ Lusk Cave

จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดในอุทยานคือ Belvédère Champlain (Champlain Lookout) ซึ่งให้ทัศนียภาพอันงดงามของหุบเขาแม่น้ำและเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ ซึ่งสวยงามเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง ทางเดินในสวนสาธารณะมีผู้คนมากมายใช้ เช่น นักปั่นจักรยาน เจ้าของสุนัข และผู้เดิน นอกจากนี้ยังมีที่พักสำหรับการตั้งแคมป์ ว่ายน้ำ ตกปลา และเล่นสกี

สวนสาธารณะ Mount Royal

นอกจากจะทำหน้าที่เป็นชื่อเดียวกับมอนทรีออลแล้ว Mont-Royal ยังทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางของภูเขา Kondiaronk Belvedere ให้ทัศนียภาพที่ดีเป็นพิเศษของเมืองควิเบกจากความสูง 233 เมตรของยอดเขา

อุทยานจัดกิจกรรมหลากหลาย เช่น การเล่นสกีแบบวิบากไปจนถึงเสียงกลองมากมายที่ Les Tam-Tams ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ในฤดูร้อนใกล้กับอนุสาวรีย์ Sir George-Étienne Cartier และการเล่นสเก็ตน้ำแข็งในฤดูหนาวบนทะเลสาบ Lac- aux-ล้อเลื่อน. ผู้เยี่ยมชมสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของ Île de Montréal และแม่น้ำ St. Lawrence จากชานชาลาที่ยอดเขา สามารถมองเห็นยอดของ American Adirondacks ได้หากอากาศปลอดโปร่งเป็นพิเศษ

มหาวิหารนอเทรอดาม

โบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองคือมหาวิหารน็อทร์-ดามที่ดูสง่างาม ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของมอนทรีออลเก่า Victor Bourgeau เป็นผู้สร้างสรรค์การตกแต่งภายใน โดยมีหอคอยแฝดและส่วนหน้าอาคารแบบนีโอโกธิคตั้งตระหง่านเหนือจัตุรัส Place d'Armes โบสถ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1656 และโครงสร้างปัจจุบันอันงดงามถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1829 งานแกะสลักไม้อันวิจิตรและหน้าต่างกระจกสีภายในเป็นภาพที่งดงามตระการตา

อวัยวะท่อ 7,000 ท่อและธรรมาสน์ที่แกะสลักด้วยมือเป็นคุณลักษณะที่น่าสังเกตเพิ่มเติม มีบริการนำเที่ยวโดยมีค่าธรรมเนียม คอนเสิร์ตแสงและเสียงยามค่ำคืนมักใช้การฉายแสงเพื่อแสดงประวัติศาสตร์ของมอนทรีออล นอกจากนี้ยังมี Cathedrale Notre-Dame-de-Québec ในเมืองควิเบก ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านแท่นบูชาที่สวยงาม หลังคาเอพิสโกพัล และหน้าต่างกระจกสี สร้างขึ้นโดยสถาปนิก Baillairgé และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 1844

สุสานน็อทร์-ดาม-เด-เนจ

สุสาน Notre-Dame-Des-Neiges ของมอนทรีออลเป็นสุสานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่บนเนินเขาของ Mount Royal ชาวมอนทรีออลที่คุณคุยด้วยมักจะมีคุณปู่ ปู่ หรือลุงฝังอยู่ที่นั่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1854 และเป็นสุสานที่ใหญ่เป็นอันดับสามในอเมริกาเหนือ

สุสาน Père Lachaise ในปารีสเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบของสุสาน ความตั้งใจของพวกเขาคือการผสมผสานความงามแบบคลาสสิกของฝรั่งเศสเข้ากับความรู้สึกของธรรมชาติ นี่เป็นเทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น โดยได้รับอิทธิพลจากนักปรัชญาชาวฝรั่งเศส Jean-Jacques Rousseau ในปี พ.ศ. 1999 สุสานได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติของแคนาดา

สุสานนิกายโรมันคาธอลิกส่วนใหญ่เป็นบ้านของอนุสาวรีย์ 65,000 แห่ง และสามารถรองรับผู้คนได้เกือบล้านคน หรือหนึ่งในสามของประชากรทั้งหมดในเมือง แบบจำลองขนาดเท่าตัวจริงของรูปปั้นปิเอตาดั้งเดิมโดยมิเคลันเจโลตั้งอยู่ในสุสานแห่งหนึ่งหรือที่เรียกว่าสุสานลาปิเอตา

อ่านเพิ่มเติม:
แม้ว่าเทศกาลนี้อาจมีต้นกำเนิดในประเทศเยอรมนี แต่ปัจจุบันเทศกาล Oktoberfest นั้นมีความเกี่ยวข้องกับเบียร์ lederhosen และ bratwurst ในปริมาณที่มากเกินไป Oktoberfest เป็นงานสำคัญในแคนาดา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเฉลิมฉลองในแคว้นบาวาเรีย ทั้งชาวท้องถิ่นและนักเดินทางจากแคนาดาต่างพากันเฉลิมฉลองเทศกาล Oktoberfest เป็นจำนวนมาก เรียนรู้เพิ่มเติมที่ คู่มือการเดินทางไป Oktoberfest ในแคนาดา.

ตรวจสอบของคุณ สิทธิ์ในการขอวีซ่าแคนาดาออนไลน์ และสมัคร eTA Canada Visa ล่วงหน้า 3 วันก่อนเที่ยวบินของคุณ พลเมืองอังกฤษ, พลเมืองอิตาลี, พลเมืองสเปน, ชาวฝรั่งเศส, พลเมืองอิสราเอล, พลเมืองเกาหลีใต้, พลเมืองโปรตุเกสและ พลเมืองชิลี สามารถสมัครออนไลน์สำหรับ eTA Canada Visa หากคุณต้องการความช่วยเหลือหรือต้องการคำชี้แจงใด ๆ คุณควรติดต่อ ฝ่ายช่วยเหลือ สำหรับการสนับสนุนและคำแนะนำ

การสมัคร eTA ของแคนาดา